UFABETWINS มีแววลา! ดีบาล่าเผย “คงเป็นเรื่องดี” หากได้เล่นร่วมกับเมสซี่ที่บาร์ซ่า
แข้งอาร์เจนไตน์วัย 26 ปีมีฤดูกาลที่ดีก่อนการแข่งขันจะถูกระงับลงชั่วคราวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
กองหน้ารายนี้ มีรยางานว่าใกล้ จะได้ต่อสัญญา กับยูเว่ออกไป ซึ่งแต่เดิม จะหมดลงในปี 2022 แต่ดีบาล่ากล่าวว่าคงเป็นเรื่องดีหากได้อยู่ทีมเดียว กับเพื่อนร่วม ชาติอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่บาร์เซโลน่า
“ความจริงคือบาร์เซโลน่าเป็นทีมใหญ่ ที่โด่งดังไปทั่วโลก และยิ่งมีเมสซี่ทีม ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก” เขาให้สัมภาษณ์กับ ซีเอ็นเอ็น
“นั่นคงเป็นเรื่องที่ดี แต่ยูเวนตุสก็เป็น สโมสรที่น่าทึ่ง, ยิ่งใหญ่, และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ที่มีนักเตะยอดเยี่ยมจนถึงปัจจุบัน
“ที่นี่เรามีแข้งฝีเท้าดีมากพอที่จะแบ่งออกเป็นสองทีมและโอกาสที่ได้ลงเล่นร่วมกับ (จานลุยจิ) บุฟฟ่อน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำให้สโมสรยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก”
ถึงแม้จะมีความสนใจที่จะลงเล่นให้กับบาร์ซ่า แต่มีรายงานว่าดีบาล่าใกล้ที่จะจรดปากกาสัญญาใหม่กับยูเวนตุส
แต่แข้งที่ทำ 13 ประตูกับ 7 แอสซิสต์จาก 34 นัดที่ลงสนามในฤดูกาลนี้กล่าวว่าเขายังคงรอคอยสัญญานั้นอยู่“จริง ๆ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเหลือสัญญาอยู่กับทีมอีกปีครึ่ง
ซึ่งไม่มากเท่าไหร่นัก และผมเข้าใจว่ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน (โควิด-19) ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสโมสร แต่กับนักเตะคนอื่นก็ต่อสัญญาใหม่กัน ดังนั้นผมขอรออยู่ที่นี่ดีกว่า” ดีบาล่ากล่าวต่อ
“ชัดเจนว่าผมเป็นนักเตะของสโมสรแห่งนี้ และผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ผู้คนรักผมมาก และผมก็รัก ทุกคนมาก ผมชื่นชอบสโมสรและผู้คนที่นี่ ผมมีความสัมพันธ์ ที่ดีกับประธาน สโมสรและมั่นใจว่าในอนาคตพวก เขาจะเข้ามา คุยกับผม หรืออาจจะไม่ก็ได้ ผมไม่รู้เหมือนกัน
“บางทีอาจจะมีการต่อสัญญาใหม่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับยูเวนตุส”
สเตอร์ลิ่งเรียกร้องส.บอลผู้ดีมอบอำนาจบริหารให้ “คนผิวดำ” บ้าง
แข้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้และทีมชาติอังกฤษแสดงความเห็นดังกล่าวระหว่างปรากฏตัวในรายการของบีบีซี Newsnight เพื่อจุดประเด็นการประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวที่เป็นกระแสไปทั่วโลก
ในการให้สัมภาษณ์ สเตอร์ลิ่งยกประเด็นดังกล่าวที่เกิดใกล้ตัวโดยยกตัวอย่างนักเตะ BAME (ผิวดำ, เอเชีย และชุนกลุ่มน้อย) ระดับโลกและมีเพียงหยิบมือที่จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญ ๆ ในระดับผู้บริหารหรือผู้จัดการทีม
สเตอร์ลิ่งกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ พูดถึงความไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะในวงการฟุตบอล
“มีนักเตะในพรีเมียร์ลีกประมาณ 500 คนและ 3 ใน 4 คือคนผิวดำ และเราไม่ได้แสดงตัวตนมากพอในตำแหน่งผู้บริหารหรือทีมโค้ช
“มีตัวแทนไม่มากพอที่จะพูดคุยถึงเรื่องนี้
“กับการประท้วงทั้งหลายเหล่านี้คือสิ่งดีและเป็นโอกาสอันดีที่จะพูดถึง แต่ถึงเวลาแล้วที่เราต้องพูดคุยกัน เพื่อจุดประกายถึงประเด็นนี้
“แต่ในขณะเดียวกันจะต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางออกเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะเราสามารถพูดคุยกันได้มากเท่าที่เราต้องการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและการยกคนดำขึ้นไปนั่งในตำแหน่งเหล่านั้นที่ผมรู้สึกว่าพวกเขาสมควรได้รับ
“ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง มีทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ผู้จัดการทีมเรนเจอร์ส), แฟรงค์ แลมพาร์ด (ผู้จัดการทีมเชลซี), มีแบบ โซล แคมพ์เบล และ แอชลี่ย์ โคล ตั้งหลายคน
“ทุกคนมีเส้นทางอาชีพที่ยอดเยี่ยม พวกเขาลงเล่นให้กับอังกฤษ
“ขณะเดียวกัน พวกเขาสอบใบประกาศโค้ชในระดับสูงสุดได้สำเร็จและพวกเขาทั้งสองคนที่ไม่ได้รับโอกาสคืออดีตสองนักเตะผิวดำ
“ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรขาดหายไป
“ไม่เพียงเฉพาะการคุกเข่าประท้วงเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นการมอบโอกาสที่พวกเขาสมควรได้รับ”
รมต.เงาผู้ดีเผยสุดเจ็บปวด ‘หงส์แดง’ ตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ
ลิเวอร์พูลอดีตแชมป์ลีก WSL 2 สมัยต้องตก ชั้นไปเล่นในแชม เปี้ยนชิพเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่สมาคมฟุตบอลมีมติให้ยุติการแข่งขันโดยนับคะแนน เฉลี่ยตามจำนวนนัด ที่ลงสนาม โดยยังคงมีการตัดสินเลื่อนชั้นและตกชั้นเช่นเดิม
กุนซือ วิคกี้ เย็ปสัน อธิบายถึงการตกชั้นครั้งนี้ว่าเป็น “ยาที่ยากจะกลืน” ขณพที่อดีตกองหน้า คอร์ทนี่ย์ สวีตแมน-เคิร์ก กล่าวว่าสโมสรต้องทนทุกข์จากการลงทุนที่ “ช้าและถดถอย”
ซึ่งช่างแตกต่างกับทีมชาย ของพวกเขาที่ใกล้จะ เถลิงแชมป์พรีเมียร์ ลีกหลังทิ้งห่างอันดับสองถึง 25 คะแนนและเตรียมชูถ้วยลีก สูงสุดในรอบ 30 ปีที่จะกลับมา เปิดสนามอีกครั้งในวันที่ 17 มิถุนายนนี้
“คำแดกดันที่น่าเจ็บปวดไม่เคยมลายหายไปจากตัวฉันที่ว่าลิเวอร์พูลทีมชายมีคะแนนทิ้งห่างถึง 25 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลทีมหญิงกลับต้องตกชั้น” รัฐมนตรีเงากระทรวงกีฬา แม็คกัฟเวิร์นให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ตส
“ในฐานะลิเวอร์พูล ฉันไม่คิดว่านั่นคือที่ที่เราควรอยู่ ฉันไม่คิดว่าเรามีความทะเยอทะยานที่จะไปอยู่ที่นั่น”
ลิเวอร์พูลต้องแบ่งปันรังเหย้า เพรนตัน พาร์ค กับทีมจากลีกวันอย่างทรานเมียร์เมื่อปี 2018 ส่วนพวกเขาต้องแยกฝึกซ้อมกับทีมชายที่สนามซ้อมเมลวู้ด
ทีมของเย็ปสันคว้าชัยชนะได้เพียง 1 จาก 14 นัดใน WSL ฤดูกาลนี้ และไม่สามารถใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในศูนย์ฝึกเคิร์กบี้ได้ ซึ่งจะมีหมายกำหนดเปิดใช้งานในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
“พวกเขาพยายามอย่างหนัก” แม็คกัฟเวิร์นกล่าวต่อ “ฉันเข้าไปชมเกมพวกเขาอยู่เป็นระยะ แต่พวกเขาต้องการการลงทุนที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่านี้ และฉันคิดว่าลิเวอร์พูลควรทำได้ดีกว่านี้ ฉันไม่อายที่จะบอกว่าฉันไม่คิดว่าพวกเขาทำได้ดีพอ”
อ่านต่อได้ที่ >>> UFABETWINS
เครดิตโดย >>> https://www.montadaphp.net/