UFABETWINS เซเตียน ดีพอสำหรับ บาร์เซโลน่า หรือไม่ ?

UFABETWINS  เซเตียน ผ่านงานด้านฟุตบอลมายาวนานตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะในยุค 80 จนกระทั่งผันตัวมารับงานกุนซือกินเวลาถึง 19 ปีก็จริง แต่ประสบการณ์ที่เขาได้รับล้วนแล้วแต่ซ้ำๆเดิมๆ

เซเตียน ดีพอสำหรับ บาร์เซโลน่า หรือไม่ ? 

ทุกคนรู้ดีว่าสถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า เวลานี้กำลังสับสนวุ่นวาย จากการสะดุดในเกมสำคัญทั้งกับ เซบีย่า และ เซลต้า บีโก้ โดยเฉพาะที่ บาไลดอส ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ไม่พอ ยังปรากฏภาพความร้าวฉานระหว่าง เลโอ เมสซี่ กับ เอเดร์ ซาราเบีย มือขวาของ กีเก้ เซเตียน ออกมาอีกด้วย

แล้วที่แย่กว่านั้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง เมสซี่ กับ ซาราเบีย ด้านหลังเราได้เห็นภาพ เซเตียน ยืนมองเห็นเหตุการณ์แล้วเกาหัวอย่างอับจนปัญญา เหมือนไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร

กลางดึกคืนวันอาทิตย์ หลังเกมกับ เซลต้า บีโก้ 1 วัน ทีมบริหารนำโดย โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร,ออสการ์ กราอู ซีอีโอ และ เอริค อาบีดัล เลขาฝ่ายเทคนิค ยกพลกันไปที่บ้านพักของ เซเตียน เพื่อประชุมหาทางออกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลังใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง บาร์โตเมว ก็ให้คำมั่นกับ เซเตียน ว่าบอร์ดบริหารยังคงหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่ แม้จะเวลานี้ บาร์เซโลน่า จะประสบปัญหาทั้งภายนอกและภายใน จนมีโอกาสป้องกันแชมป์ ลา ลีกา ในปีนี้เลือนลาง

คำพูดส่วนคำพูด การกระทำส่วนการกระทำ 

ความเป็นจริงแล้ว คุณคิดว่าบอร์ดจะเอา เซเตียน ไว้หรือปล่า ?  หากสุดท้ายแล้ว บาร์ซ่า พลาดแชมป์ลา ลีกา ยิ่งพลาดแบบหลุดโค้งเละเทะ ก็ยิ่งน่าคิด เพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ส่วนนึงแม้มาจากบอร์ดบริหารเอง แต่อีกส่วนนึงก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอยู่ในความรับผิดชอบของ เซเตียน

เซเตียน ปีนี้อายุ 61 ปีแล้วก็จริง และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาคลุกคลีกับฟุตบอลมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะในยุค 80 จนกระทั่งผันตัวขึ้นมารับงานคุมทีมในช่วงปี 2001

รวมระยะเวลาการทำงานกุนซือทั้งสิ้น 19 ปี พูดได้ว่าไม่น้อยเลย กระนั้นลองไล่เรียงสโมสรที่ เซเตียน เคยทำงานด้วยทั้งสิ้น 7 สโมสร เราก็จะได้ยินชื่อทีมอย่าง ราซิ่ง ซานตานเดร์,โปลี เอฆิโด้,ทีมชาติอีควอโตเรียล กีนี,โลโกรนเญส,ลูโก้,ลาส ปัลมาส และ เรอัล เบติส

หากไม่นับ บาร์เซโลน่า แล้ว เรอัล เบติส คือสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเทรนเนอร์ของ เซเตียน และถ้านับเฉพาะการทำงานในระดับสูงสุดอย่าง ลา ลีกา ก็มีเพียงแค่ ลาส ปัลมาส กับ เบติส เท่านั้น

ความจริงที่ต้องยอมรับก็คือ เรอัล เบติส มีขนาดเล็กกว่า บาร์เซโลน่า มากมายนัก ซึ่งเมื่อรวมกับการทำงานที่อื่นๆแล้ว ก็แทบจะพูดได้ว่า การคุม บาร์ซ่า คือประสบการณ์อันแปลกใหม่ของชายวัย 61 ปีผู้นี้

ยังจำได้ที่ เซเตียน กล่าวไว้ประโยคนึงในวันแถลงข่าวเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่บาร์ซ่าในทำนองว่าชีวิตของเขาช่างเหลือเชื่อนัก

“Ayer estaba paseando con vacas en mi pueblo y hoy entrenando a los mejores del mundo”  “เมื่อวานผมยังเดินเล่นกับฝูงวัวในหมู่บ้านของผมอยู่เลย , มาวันนี้ผมได้คุมกลุ่มนักเตะที่ดีที่สุดในโลก”

ครับ ยกประโยคนี้ขึ้นมา ใช่มีเจตนาจะเย้ยหยัน เซเตียน (ผมไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น) หากแต่ต้องการที่จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า การเดินเคียงข้างหรือคุมกลุ่มนักเตะที่ดีที่สุดในโลก มันไม่ได้ง่ายดายและสุขสงบเหมือนการเดินเล่นกับฝูงวัวไปตามถนนในหมู่บ้านที่ ซานตานเดร์

สำหรับ บาร์เซโลน่า เทรนเนอร์ไม่ได้มีไว้แค่ไม่ได้มีไว้แค่วางแท็คติก,จัดตัวผู้เล่น หรือ แก้เกมเท่านั้น เพราะนอกจากความคาดหวังอันสูงลิบว่าต้องชนะในทุกเกมแล้ว บุคคลที่นั่งเก้าอี้นายใหญ่ทัพ ‘อาซูลกราน่า’ จะต้องมีทักษะความสามารถในด้านอื่นๆที่ดีเยี่ยมด้วย

ไม่ว่าจะเป็นศิลปะในการบริหารจัดการคน, การประเมินสถานการณ์,การรู้จักควบคุมสถานการณ์,ความเข้าใจต่อประเด็นปัญหาและวิกฤต,วาทะศิลป์, การรับมือกับความกดดันจากด้านต่างๆเช่นสื่อมวลชนที่พร้อมจะเฉ่งคุณทุกเมื่อยามที่พลาดพลั้ง

เหล่านี้ถือเป็นศิลปะขั้นสูง เทรนเนอร์น้อยคนมีที่จะมีความสามารถรอบด้าน บางคนอาจขาดส่วนใดส่วนนึงไป นั่นก็ยังพอที่จะนั่งในตำแหน่งกุนซือของ บาร์ซ่า ได้ หากโดดเด่นในคุณสมบัติข้อหลัก แต่หากขาดคุณสมบัติที่จำเป็นมากเกินไป ลงท้ายแล้วก็ไม่แคล้วต้องเจอกับปัญหาความวุ่นวาย

ยุคสมัยของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ แฟนบาร์ซ่ายี้และโจมตีเรื่องสไตล์การเล่น แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ดีมากๆก็คือการบริหารจัดการภายในทีม 

เรียกได้ว่าตอนที่ บัลเบร์เด้ ยังอยู่ ไม่เคยมีเหตุการณ์ทีมสต๊าฟเขม่นกับนักเตะภายในทีมเลย อีกทั้งตัวนักเตะเองก็แสดงออกถึงการหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่ ภายในทีมไม่มีข่าวเสียหาย ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเกิดขึ้น

แม้กระทั่งการตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างสุดช็อคต่อ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ซึ่งใครต่อใครก็คาดว่าเขาคงจะอยู่ในตำแหน่งไม่ไหวอีกต่อไป แต่เขาก็ยังสามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ ขณะที่นักเตะในทีม ซึ่งนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ต่างออกมาปกป้อง บัลเบร์เด้ พร้อมๆกับยอมรับว่าเป็นความผิดของพวกเขาที่เล่นกันได้ไม่ดีเอง

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม และสิ่งที่จะทำให้ทีมไปรอด หรือประสบความสำเร็จก็คือสปิริตภายในทีม ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นักเตะในทีมทั้ง 23-24 คนจะต้องมองเป้าหมายเดียวกัน จะต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน จึงจะถึงหลักชัย

แต่ถ้าหากเกิดรอยแตกร้าวระหว่างทีมงานกับนักเตะแล้วมันย่อมไม่ส่งผลดีอันสะท้อนให้เห็นปัญหาการจัดการภายใน

นอกจากนี้ในแง่ของวาทะศิลป์ เซเตียน ก็ยังทำได้ไม่ดี การให้สัมภาษณ์พูดถึง อาร์ตู เมโล่ ในเชิงดิสเครดิตนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดการโต้เถียงและเพิ่มปัญหาแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของนักเตะในทีมคนอื่นอีกด้วย

นักเตะที่เหลืออยู่จะคิดอย่างไร เมื่อกุนซือพร้อมเล่นงานคุณทันทีที่รู้ว่าคุณกำลังจะย้ายทีม ?

เวลานี้ ใครก็ดูออกว่า บาร์เซโลน่า กำลังมีปัญหา มันไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันที่เป็นตัวสะท้อนเท่านั้น หากแต่ภาษากายของนักเตะและทีมสต๊าฟก็ยังบ่งบอกได้ชัดเจน

ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า เซเตียน ยังทำได้ไม่ดีพอ แม้เขาจะผ่านร้อนผ่านหนาวและทำงานด้านฟุตบอลมานาน แต่ก็อย่างที่ไล่เรียงชื่อสโสรไปแล้วข้างต้นว่าล้วนแล้วแต่เป็นทีมเล็กทั้งสิ้น 

เช่นนี้ก็สามารถอนุมานได้แล้วว่าประสบการณ์ที่ เซเตียน ได้รับตลอดช่วง 19 ปีในการเป็นเทรนเนอร์ ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ในรูปแบบเดิมๆแทบทั้งสิ้น ไม่เคยเจออะไรที่แปลกใหม่ หรือท้าทายความคิดความสามารถได้เท่ากับงานที่ บาร์เซโลน่า ซึ่งเมื่อต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย อันแตกต่างออกไปก็เกิดปัญหาเพราะเขาขาดทักษะที่จำเป็น

โดยส่วนตัว ผมยังเอาใจช่วยให้ เซเตียน สามารถพลิกสถานการณ์นำพา บาร์เซโลน่า กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง เพราะมองว่าเขาสมควรมีเวลาในการพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ ถึงแม้เวลานี้ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาเหมาะกับงานคุมทีมอย่าง บาร์เซโลน่า หรือเปล่า

เจมส์ ลา ลีกา

……………………………………..

เพิ่มเติม  >>>  https://www.ufabetwins.com/

คลิกเลย >>>  https://www.montadaphp.net/